นำส่งงบการเงินและชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของกำไร

วันที่ 7 สิงหาคม 2552 เรื่อง นำส่งงบการเงินประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2552 เรียน กรรมการ และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัทระหว่างกาลของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประจำไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ซึ่งสอบทานโดยผู้สอบบัญชีของ บริษัทฯ แล้ว รายได้ ในไตรมาสที่สองของ ปี 2552 ภาวะเศรษฐกิจยังคงซบเซาและไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัว ที่ชัดเจนซึ่งเห็นได้จากอัตราการเติบโตของการส่งออกที่ติดลบอย่างมากจากงวดเดียวกันของ ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มลดลง อีกทั้งมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในเชิงลบใน ไตรมาสดังกล่าว เช่น ความวุ่นวายทางการเมืองระหว่างช่วงเทศกาลสงกรานต์ การระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงและ เศรษฐกิจหดตัว อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้บริหารธุรกิจทำให้มียอดรายได้รวมจำนวน 19,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 0.8 จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา การเติบโตของรายได้รวมเป็นผลมาจาก การเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (41 สาขา) และยอดขายเพิ่มเติมของสาขาใหม่ที่ 42 (รามอินทรา) ซึ่งเปิดในกลางเดือนมิถุนายน และรายได้จากค่าบริการซึ่งเติบโตในอัตราร้อยละ 13 ทั้งนี้ เป็นการเปรียบเทียบโดยที่ในไตรมาสนี้ไม่มียอดขายของบริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด และ รายการกำไรจากการจำหน่ายหุ้นทั้งหมดของบริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งได้เกิดขึ้นใน ไตรมาสที่สองของปีที่ผ่านมา กำไรขั้นต้น อัตราส่วนของกำไรขั้นต้นต่อยอดขายคิดเป็นร้อยละ 6.1 ลดลงจากร้อยละ 6.7 ของไตรมาสเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากมีการแข่งขันด้านราคาอย่างมากในตลาด ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวมเกี่ยวกับการขายลดลงร้อยละ 3.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งเป็น ผลจากการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีค่าใช้จ่ายของบริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด ค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากค่าใช้จ่าย ก่อนเปิดดำเนินการของสาขาใหม่ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย คิดเป็นร้อยละ 6.2 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 6.4 ของงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิ บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักภาษีเงินได้รวมจำนวน 438 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในอัตราร้อยละ 32.4 สืบเนื่องจากในไตรมาสนี้ไม่มีรายการกำไรจากการจำหน่ายหุ้นทั้งหมดของบริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด และการลดลงของกำไรขั้นต้น บริษัทฯ มีกำไรหลังหักภาษีเงินได้จำนวน 289 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาในอัตราร้อยละ 33.1 ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับ กำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้โดยไม่รวมรายการกำไรจากการจำหน่ายหุ้นทั้งหมดของบริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด ดังกล่าว กำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้จะลดลงในอัตราร้อยละ 10.2 จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (นายเจริญ อัศวจารุเกษม) ผู้จัดการฝ่ายประสานงานตลาดหลักทรัพย์